ปลาเก๋าดอกแดงหรือปลากะรังดอกแดง และปลากะพงขาว เป็นปลาเศรษฐกิจของประเทศไทยมาอย่างช้านาน มักถูกนำไปประกอบอาหารอย่างหลากหลาย ตามร้านอาหาร หรือภัตตาคาร และมักพบเห็นตามตลาดสดอยู่เสมอ โดยเนื้อปลากะพงขาว และเนื้อปลาเก๋าดอกแดง สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ปลาเก๋าสามรส, ปลาเก๋าราดพริก, ปลาเก๋าน้ำแดง, ข้าวต้มปลากะพง, ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว, ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย, ปลากะพงผัดพริกเกลือ เป็นต้น
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าระหว่างปลาเก๋า และปลากะพง จะเลือกปลาชนิดไหนมาประกอบอาหาร วันนี้เจจับมาชนกันให้เห็นว่าต่างกันอย่างไร และเนื้อปลาอะไรอร่อยที่สุด?
ปลาเก๋าดอกแดง ไซส์ 6-7 กก./ตัว
เป็นปลาที่มีส่วนหัวขนาดใหญ่ มีเนื้อเยอะ (นำมาทำเป็นต้มยำหัวปลาเก๋าอร่อยสุดๆ) เนื้อนุ่ม แน่น หนึบ เนื้อละเอียด มีรสชาติเฉพาะตัว มักนำมาลวกจิ้ม หรือนึ่งบ๊วย โชว์รสชาติเนื้อปลาเก๋าเต็มๆ
ปลากะพงขาว ไซส์ 6-7 กก./ตัว
เป็นปลาที่ส่วนหัวเล็ก แต่มีส่วนลำตัวกว้างทำให้มีเนื้อเยอะ เนื้อปลากะพงจะนุ่ม ละเอียด ละมุนลิ้น รสชาติหวาน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย จะทำเมนูไหนก็อร่อย
แมทช์นี้เจจึงขอตัดสินให้ ทั้งคู่ 'เสมอกัน' เพราะปลาทั้งสองชนิดมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งคู่ ทั้งต้ม ผัด นึ่ง ทอด ก็อร่อยไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับว่าชอบแบบไหน
*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย หากเนื้อปลาถูกแล่เรียบร้อยแล้วสามารถแยกปลาเก๋าและปลากะพงโดยดูจากผิวหนังและเกล็ดของปลา โดยปลาเก๋าจะมีเกล็ดและระยะห่างระหว่างช่วงเกล็ดขนาดใหญ่ ส่วนปลากระพงเกล็ดจะเล็กและถี่กว่า
สำหรับใครที่กำลังมองหาปลาเก๋าหรือปลากระพง สด ๆ จากเรือประมงเล็ก สามารถสั่งซื้อได้ที่ J-Gourmet เลยครับ เจคัดเองกับมือ เกรดพรีเมียมสุด มีทั้งยกตัว แล่ฟิลเล่ หรือตัดเป็นสเต็ก ฟรี! บริการฟรีซสด และแพ็คสูญญากาศพร้อมส่งทันที สด สะอาด มั่นใจ 100%