Privacy Policy

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของบริษัท เดลิเวอร์ มี จำกัด

  1. บททั่วไป

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท เดลิเวอร์ มี จำกัด  (“บริษัทฯ”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของบริษัทฯ ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การโอน การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล” และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคดังกล่าว ประกอบด้วยประเภท รายละเอียด แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลมี 6 ประเภทดังนี้

 

 

ประเภท

รายละเอียด

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

(1)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้า

บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้ซื้อสินค้า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมการประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชั่น ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น และให้หมายความรวมถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซื้อขาย การสั่งซื้อสินค้า หรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัทฯ

         เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด

         เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัท และเข้าทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทฯ

         เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่นๆ

         การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการและแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการ E-Commerce และผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า/บริการ

         ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

(2)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคู่ค้า

บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ อาทิ ตัวแทน พ่อค้าคนกลาง ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้ร่วมทำธุรกิจ ผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง

         เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือช่องทางอื่น

         เมื่อท่านให้ข้อมูลในการเสนอสินค้าหรือบริการแก่บริษัท

         เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัท และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ

         เมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัทฯ ทางโทรศัพท์ อีเมล หรือโดยวิธีการอื่นใด

         ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

(3)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน

บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัทฯ และได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากบริษัทฯ เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน บุคลากร ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานของบริษัท และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (Reference Person) ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้นโปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับพนักงานของบริษัทฯ

         ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในสถานะบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้ค้ำประกันการทำงานของพนักงานของบริษัทฯ

(4)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน

บุคคลที่สมัครงงานกับบริษัท หรืออาจได้รับคัดเลือกเป็นพนักงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเองโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลภายนอกก็ได้ และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

         เมื่อท่านส่งเอกสารหรือ Resume เพื่อขอสมัครงงานจากบริษัท

         เมื่อท่านยื่นใบสมัครงานและเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่บริษัทฯ ไม่ว่าโดยการ walk-in การสมัครที่บูธสมัครงาน หรือการสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือเว็บไซต์ให้บริการสรรหาผู้สมัคร

         เมื่อท่านเข้าสัมภาษณ์งานกับทางบริษัทฯ

         บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากเว็บไซต์สมัครงานของบุคคลที่สาม บุคคลอ้างอิงของท่าน บริษัทจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา หรือแหล่งข้อมูลจาก Social Media ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

(5)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหลักทรัพย์

บุคคลซึ่งมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหลักทรัพย์ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ถือหุ้นกู้ หรือผู้ถือหลักทรัพย์ประเภทอื่น เป็นต้น

         เมื่อท่านได้เข้าถือหุ้นของบริษัทหรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ

         เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลของท่าน ในฐานะผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหลักทรัพย์ จากบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด

         เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลของท่าน ในฐานะผู้ถือหุ้นกู้ จากธนาคารหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ

(6)

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลทั่วไป

บุคคลอื่นใดนอกเหนือจากบุคคลในประเภทข้างต้น ที่บริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง หรือเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติจากการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ หรือได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น ผู้ที่ถูกบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) และผู้ที่เข้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นต้น

เมื่อท่านถูกบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว หรือถูกบันทึกเสียงโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู  (ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด)

          

         เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม

 

2.2 ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู  (นโยบายการใช้คุกกี้)

 

2.3 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

2.4 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร ข้อมูลบุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ และภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น) เป็นต้น

3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท โรงงาน สาขาของลูกค้า เช่น ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น  เลขทะเบียนรถยนต์ ประเภทของรถยนต์ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาทะเบียนพาณิชย์ สำเนาเอกสารสิทธิ แผนที่ ที่ตั้ง และเงื่อนไขการค้า เป็นต้น

3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รหัสคู่ค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ (อาทิ สินค้าที่ต้องการ จำนวน และคุณภาพ) รายละเอียดของสินค้าที่ต้องการ รายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า (อาทิ วันที่สั่งซื้อสินค้า ประเภทสินค้า สาขาที่เกี่ยวข้อง และปัญหาที่พบ) รายละเอียดการส่งสินค้า หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการให้บริการ เป็นต้น

3.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญการจ่าย ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก  หลักค้ำประกัน ตั๋วเงิน เป็นต้น

3.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมต่าง ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า เอกสารรับรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารหลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) หนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม ใบส่งสินค้า และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาสูติบัตร แบบแจ้งขออนุมัติเงินเดือนพนักงานใหม่และบรรจุเป็นรายเดือน ใบรับรองแพทย์ ผลตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน แบบระบุนามผู้รับผลประโยชน์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล สัญญาจ้างงาน หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น หนังสือรับรองตำแหน่ง สำเนาบัตรข้าราชการ หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาทะเบียนการค้า หรือเอกสารจัดตั้งบริษัทที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงานเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วน เป็นต้น) ข้อตกลงการว่าจ้างกรรมการ และหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น

3.7 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม (เช่น ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา และปีที่จบ เป็นต้น) หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษา ความสามารถทางภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบ และกิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างการศึกษา เป็นต้น

3.8 ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ข้อมูลที่ปรากฏใน Resume/CV ข้อมูล ประวัติอาชญากรรม ตำแหน่งที่สมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ (เช่น ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์ คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานกับผู้อื่น และศักยภาพ) เป็นต้น

3.9 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผล เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่ง แผนก สังกัด สายการบังคับบัญชา การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่เคยได้รับ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากรข้ามบริษัท สัญญายืมตัวบุคลากร หนังสือเลิกจ้าง ใบลาออกจากการเป็นพนักางน และเหตุผลที่ลาออก เป็นต้น

3.10 ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับเงินรางวัล สวัสดิการ เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลของผู้ค้ำประกันการทำงาน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร ข้อมูลการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ และ/หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ รายงานผลการตรวจสุขภาพประจำปี แบบแจ้งการลาคลอด แบบเบิกเงินยืมสวัสดิการ หนังสือยินยอมให้หักเงินเดือน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ แบบการเรียกค่าสินไหมทดแทน (สำหรับการประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต) และแบบขออนุมัติผลประโยชน์เมื่อพ้นสภาพพนักงานสำหรับการเกษียณอายุ เป็นต้น

3.11 ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบแจ้งการลา รายละเอียดการลารวมถึงสาเหตุการลา บันทึกการเข้าออกบริษัทฯ และการบันทึกการใช้ระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ เป็นต้น

3.12 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

3.13 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมหรือแนวโน้มในการซื้อสินค้าและ/หรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา  บันทึกไลน์ บันทึก Messenger แอปพลิเคชัน บันทึกผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่มีเสียงและไม่มีเสียง เป็นต้น

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า "วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ลำดับ

วัตถุประสงค์ที่กำหนด

ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล

(ก) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้า ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

(1)

เพื่อการลงทะเบียนหรือการเปิดบัญชีลูกค้าเพื่อเป็นลูกค้าของบริษัท

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า สำหรับการลงทะเบียนสมัครสมาชิกเป็นลูกค้ารายใหม่หรือการเปิดบัญชีลูกค้า

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(2)

เพื่อการดำเนินการเข้าทำสัญญา ซื้อขายสินค้าและบริการ

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติลูกค้า เป็นต้น

(3)

เพื่อการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า จัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ ซึ่งลูกค้าเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดเตรียมจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า เป็นต้น

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(4)

เพื่อการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า และการรับเรื่องร้องเรียน

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ สำหรับในกรณีการรับเรื่องร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า

(ข) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้า การใช้บริการของผู้ให้บริการ และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

(1)

เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง และการคัดเลือกคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอเข้าเสนอราคาของคู่ค้าที่เสนอราคา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก่อนเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจและดำเนินการตามนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ

(2)

เพื่อการลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อดำเนินการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ารายใหม่ ตลอดจนการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่คู่ค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(3)

เพื่อการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาใด ๆ

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญาเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญาดังกล่าว ที่ได้แสดงเจตนาเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญา (หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือตัวแทนของคู่สัญญา ในกรณีที่คู่สัญญาเป็นนิติบุคคล) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาของบริษัทฯ

(4)

เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น การสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การตั้งหนี้และชำระราคาสินค้าหรือบริการ และการรับสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

(ค) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารและกิจกรรมทางการตลาด

(1)

เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เกี่ยวกับการขายสินค้าและการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ

(2)

เพื่อการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ

         ฐานความยินยอม: การที่บริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ อาทิ การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ท่าน การขอถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านเพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาดตามช่องทางสื่อต่าง ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

(ง) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลและการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการของบริษัทฯ

(1)

เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

         ฐานความยินยอม: การที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายเข้าขอสัมภาษณ์และสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือการซื้อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาจากบุคคลภายนอก เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

(2)

เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่าน

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัท

         ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของท่าน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

(จ) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล

(1)

เพื่อการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน

         ฐานสัญญา: การประมวลผลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ได้แสดงเจตนาสมัครงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกลูกจ้างของบริษัทฯ

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการรับสมัครและคัดเลือกผู้สมัครงาน

         ฐานความยินยอม: การประเมินผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอ้างอิง (Reference Person) ของผู้สมัครงานจะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

         ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกจ้าง โดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เองจากแหล่งอื่น เช่น เว็บไซต์ Recruiter โดยที่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นบุคลากรยังไม่ได้แสดงเจตนาว่าประสงค์ที่จะสมัครงาน (Open to Job Opportunities) กับบริษัทฯ

(2)

เพื่อการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับจ้างงาน และการบรรจุบุคลากรเข้าทำงาน อาทิ การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และการเข้าทำสัญญาจ้าง

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้างเป็นการจำเป็นในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของบุคลากร เพื่อบรรจุบุคลากรเข้าทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นต้น

         ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร อาทิ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากลูกจ้าง

(3)

เพื่อการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์บุคลากร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ เงินยืมสวัสดิการ การเบิกค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการส่วนลดสำหรับบุคลากร การตรวจร่างกายประจำปี และการประกันภัยหรือประกันสุขภาพแบบกลุ่ม

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง เป็นการจำเป็นสำหรับบริษัท ในการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งลูกจ้างเป็นคู่สัญญา

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์ของลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง

         ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง อาทิ ข้อมูลสุขภาพ เพื่อการบริหารจัดการการประกันภัยแบบกลุ่มหรือสวัสดิการอื่น ๆ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง

(4)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ของลูกจ้างตามสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งเข้าทำกับบริษัทฯ

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หรือทำงานตามขอบเขตที่ระบุในสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งลูกจ้างได้เข้าทำกับบริษัทฯ

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวของบริษัทฯ

(5)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ

         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง เป็นการจำเป็นสำหรับการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนและ/หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งลูกจ้างเป็นคู่สัญญา

         ฐานกฎหมาย: ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้าง เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร หรือหักเงินสมทบประกันสังคม เป็นต้น

(6)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการการฝึกอบรมลูกจ้าง หรือตามมาตรฐานตามระบบคุณภาพของบริษัท

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการบริการจัดการการจัดฝึกอบรม เช่น การลงทะเบียนหลักสูตรอบรม การจัดให้มีแผนการดำเนินการและแบบฝึกอบรม หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะการทำงาน การอบรมระบบคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เช่น GMP หรือ HACCP ตลอดจนการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เหมาะสม สำหรับการจัดฝึกอบรม เป็นต้น

(ฉ) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบริหารจัดการหุ้น หุ้นกู้ และหลักทรัพย์อื่นใดของบริษัทฯ

(1)

เพื่อการรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์ ทำการตรวจสอบ และดำเนินจัดการต่าง ๆ เกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์

         ฐานกฎหมาย: การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น และผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อการตรวจสอบและการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์ และการจัดมีการประชุมผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์ หรือกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นต้น

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมีความจำเป็นต่อการตรวจสอบและดำเนินจัดการต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและ/หรือผู้ถือหลักทรัพย์

         ฐานสัญญา: การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่ประสงค์จะซื้อหุ้นกู้หรือผู้ถือหุ้นกู้ เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือการจัดทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ต่อไป

(ช) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัทฯ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(1)

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือใช้บังคับกับบริษัทฯ

         ฐานกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ อาทิ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงกฎหมายที่อาจเข้าข่ายกับธุรกิจของบริษัท ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นต้น

(2)

เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

(ซ) วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

(1)

เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และ ทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป

·         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป เช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป เป็นต้น

·         ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

(ฌ) ดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อท่าน และวัตถุประสงค์อื่น ๆ

(1)

เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดใด ๆ ข้างต้น

         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

(2)

เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ

         บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

 

4.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 4.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน หรือปฏิเสธการให้สวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

4.3 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

 (ก)  บริษัทในเครือของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ข)  คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การตรวจสุขภาพของลูกจ้างโดยคู่ค้าทางธุรกิจ การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการด้านสุขภาพ บริการประกันภัย บริการการฝึกอบรม บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย เป็นต้น

(ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี นักคณิตศาสตร์ประกันภัย นักการตลาดหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ เป็นต้น

(ง)  หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงการต่างประเทศ  สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (เช่น บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น

(จ)  ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ ที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่งของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลังกัน

(ฉ)  บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป

5.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

5.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

  1. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัท (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้

  1. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้

7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

  1. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

กรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้

บริษัท เดลิเวอร์ มี จำกัด

สถานที่ติดต่อ: 65   อาคาร 42  ทาวเวอร์ ชั้น 17  ห้อง 1701  ถนนสุขุมวิท  แขวงพระโขนง  เขตคลองเตย  กรุงเทพฯ   10110

เบอร์ติดต่อ  662-3658200

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

อีเมล: dpo@deliverme.co.th

สถานที่ติดต่อ: สถานที่ติดต่อ: 65   อาคาร 42  ทาวเวอร์ ชั้น 17  ห้อง 1701  ถนนสุขุมวิท  แขวงพระโขนง  เขตคลองเตย  กรุงเทพฯ   10110