เกลือนับเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงสำคัญที่ทุกบ้านต้องมีติดครัวไว้ นอกจากเกลือเกล็ดสีขาวใสที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ในโลกใบนี้ยังมีเกลืออีกหลายชนิดที่เจอยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก เกลือแต่ละชนิดมีแหล่งที่มา มีคุณประโยชน์และมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ตามเจไปท่องโลกของเกลือไปพร้อมๆ กันได้เลย

 

เริ่มต้นที่เกลือตัวท็อปฮิตที่คนไทยใช้กันมากที่สุด อย่างเกลือสีขาวและเกลือสีชมพูกันก่อนเลย

เกลือสีขาว

เกลือสีขาว เป็นเกลือบริโภคที่คนไทยรู้จักกันดีที่สุด เราจะเห็นนาเกลือที่เรียงรายตามเส้นริมทะเลบ้านเราโดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาครที่มีชื่อเสียงในการผลิตเกลือ เกลือสีขาวจะมีอยู่สองชนิด คือ เกลือสินเธาว์ และเกลือสมุทร (เกลือทะเล) แต่คนทั่วโลกจะนิยมใช้เกลือทะเลมาปรุงอาหารมากกว่า นอกจากจะมีรสเค็มแหลมกว่าเกลือสินเธาว์แล้ว เกลือทะเลยังมีแร่ไอโอดีนที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย

เกลือชมพู / เกลือหิมาลายัน

เกลือหิมาลายัน ถือเป็นเกลือที่บริสุทธิ์ที่สุดของโลก มีแหล่งผลิตอยู่ที่เหมืองเกลือ Khewra บริเวณเทือกเขาหิมาลัยของประเทศปากีสถาน มีสีชมพูอ่อนไปจนชมพูเข้ม นิยมใช้ในอุตสาหกรรมความสวยความงาม มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกลือสปา 

วงการอาหารก็ยังนิยมใช้มาปรุงอาหารให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือ ช่วยดับกลิ่นคาวได้อยู่หมัด ที่สำคัญ เกลือหิมาลายันนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติมากถึง 84 ชนิด ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนไทยถึงตามหาแต่เกลือหิมาลายัน

 

ผ่านไปแล้วกับ เกลือตัวท็อปฮิตทั้ง 2 ชนิด ต่อไปที่เจจะพาไปทำความรู้จักเกลืออีก 4 ชนิด ที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมโลก พร้อมเผยถึงคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในเกลืออีกด้วย

เกลือแดงฮาวาย

เกลือฮาวายสีแดง เป็นเกลือสมุทรจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์มากติดอันดับโลกเช่นกัน เกลือชนิดนี้จะไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม เม็ดเกลือเกิดจากการตกผลึกผสมกับดินภูเขาไฟอัลลาแอ ใช้เวลากการตกผลึกยาวนานหลายศตวรรษ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกลืออัลลาแอ (Hawaiian Red Alaea Salt) ประกอบด้วยธาตุเหล็กสูง จึงทำให้เกลือมีสีแดงหรือน้ำตาลแดง เกลือชนิดนี้คนจะนิยมนำมาปรุงอาหารเมนูเนื้อหมูและอาหารทะเล ช่วยเติมความกลมกล่อมให้ทุกจานอาหาร

เกลือดำฮาวาย

เกลือดำฮาวาย ผลิตบนเกาะฮาวายในเหมืองเกลือบริเวณใกล้ภูเขาไฟ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า เกลือลาวาฮาวาย เกลือชนิดนี้จะมีความพิเศษตรงที่ผลึกเกลือจะละเอียดและมีรสสัมผัสที่กรอบ ซึมซับเอาแร่ธาตุในถ่านกัมมันต์สีดำบนภูเขาไฟ เป็นเกลือที่เหมาะสำหรับการปรุงเมนูเนื้อหมูและอาหารทะเลเช่นกัน

เกลือดำเนปาล

เกลือดำชนิดนี้พบในประเทศเนปาล บริเวณเทือกเขาหิมาลัย กระบวนการผลิตจะนำเกล็ดเกลือมารมควันด้วยถ่านที่ผ่านกระบวนการเผาเมล็ดและเปลือกของสมุนไพรพื้นถิ่นของเนปาลในเตาตลอด 24 ชั่วโมง จะได้เกลือที่มีสีแดงกร่ำเข้มไปจนถึงสีดำ

เกลือดำเนปาลจะมีรสชาติเผ็ด เค็ม และมีกลิ่นหอมกำมะถันคล้ายกินไข่ไก่ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มักนำมาปรุงอาหารมังสวิรัติ หรือกลุ่มวีแกน เพื่อให้อาหารจานนั้นๆ มีกลิ่นหอมกรุ่นยิ่งขึ้น 

เกลือเปรู

เกลือชนิดนี้เป็นเกลือจาก มาราส (Maras) เหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศเปรู ผลึกเกลือธรรมชาติมาจากระเหยของน้ำเค็มของน้ำบาดาล พื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร อุดมคุณค่าไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น เหล็ก สังกะสี แคลเซียม และแมกนีเซียม ให้ประโยชน์แก่เนื้อเยื่อ และมีส่วนในการเสริมสร้างไขกระดูกในร่างกายและช่วยบรรเทาความเครียด ป้องกันโรคโลหิตจาง และโรคกระดูกพรุน รวมถึงลดระดับน้ำตาลในเลือดแก่ผู้ป่วยเบาหวาน

เกลือเปรูจะมีรสเค็มไม่แหลมคล้ายเกลือสินเธาว์บ้านเรา แต่ด้วยอุดมคุณค่าไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด คนจึงนิยมนำมาปรุงอาหารประจำวันแถมได้สุขภาพที่ดีด้วย



นอกจากเกลือที่เล่าไปทั้ง 6 ชนิดแล้ว ในปัจจุบันหลายแบรนด์ยังนิยมเอาเกลือมาผสมเครื่องเทศต่างๆ พร้อมปรุงทั้ง เมนูบาร์บีคิว ปิ้งย่าง และอาหารอิตาเลียน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับคนชอบเข้าครัว แบรนด์ Lunn หนึ่งในแบรนด์เกลือของอินเดียที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นแหล่งรวมเกลือตัวเด็ดจากทั่วโลก ข้อดีเกลือแบรนด์นี้คือ

  • รสชาติไม่เค็มจัด โซเดียมต่ำ เหมาะกับปรุงอาหารในทุกๆ วัน
  • 100% มังสวิรัติ ออแกนิค และคีโตเจนิค
  • ปลอดไมโครพลาสติก และสารพิษ
  • ปลอดสารป้องกันการจับตัวเป็นก้อน

บรรจุภัณฑ์ของลุนน์ ผ่านการรับรอง FSSAI (Food Safety and Standards Authority of India) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฝาบดสะดวกต่อการใช้งาน อีกทั้งช่วยบดผลึกเกลือคริสตัลใส และช่วยรักษากลิ่นและรสชาติของเครื่องเทศให้สดใหม่ตลอดเวลา สามารถเก็บไว้ได้นาน 24 ถึง 36 เดือน เจนำเข้ามาให้ทุกคนตามไปช้อปกันแล้ว คลิกเลย https://bit.ly/3qOm05c

ที่มา: lunn.inwideopeneats